บาท

วันนี้ (26 กันยายน) ปุ๊น-ตรีรัตน์ ศิริจันทโรภาส รองเลขาธิการพรรคไทยสร้างไทย ได้เขียนข้อความแสดงความคิดเห็นถึงนโยบายแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าไม่เห็นด้วย และยากที่จะเห็นด้วยหากรัฐบาลจะกู้เพื่อแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท เพราะฐานะทางการคลังของประเทศไทยไม่ได้เป็นประเทศร่ำรวย แต่เต็มไปด้วยหนี้สินจากการเงินกู้สารพัดโครงการตั้งแต่สมัยยุคลุง นอกจากนี้ยังมีรายจ่ายมากกว่ารายรับ ภาษีงบประมาณขาดดุลมาหลายปีซ้อนกว่าหลายแสนล้านที่ต้องกู้มาชดเชยการขาดดุล    ตรีรัตน์ระบุว่า การใช้เงินกู้ทุกบาทจึงต้องระมัดระวังอย่างมาก แม้นโยบายนี้จะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น สามารถช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยหรือขาดแคลนได้ก็ตาม แต่สำหรับเจ้าสัว เจ้าของกิจการ ผู้มีรายได้มาก นโยบายนี้คงไม่ทำให้เขารวยขึ้นแต่อย่างใด และเพื่อให้ฐานะการคลังดีขึ้น ประเทศชาติใช้เงินกู้น้อยลง    “ตนเชื่อว่าคนรวยหลายท่านคงอยากช่วยรัฐบาลลดภาระทางการคลัง จึงขอเสนอให้รัฐบาลให้สิทธิ์ประชาชนเลือกได้ว่า ‘จะรับ หรือ ไม่รับ’ เงินดิจิทัล 10,000 บาท ซึ่งตนยินดีสละสิทธิ์ ไม่รับเงินดิจิทัล เพื่อช่วยประเทศชาติครับ” ตรีรัตน์ระบุทิ้งท้าย   อ้างอิง: ABOUT THE AUTHOR THE STANDARD TEAM กองบรรณาธิการ THE STANDARD

หลังมีข่าวจากประชาชาติธุรกิจระบุว่ารัฐบาลกำลังพูดคุยกับธนาคารกรุงไทยถึงการใช้แอปเป๋าตังค์ในโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ก็ทำให้ถูกตั้งคำถามว่ายังจะใช้บล็อคเชนอยู่หรือไม่ วันนี้คุณลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคก็ออกมายืนยันว่ายังใช้บล็อคเชนอยู่ตามที่ประกาศไว้ อย่างไรก็ดีตัวแอปพลิเคชั่นที่ประชาชนใช้งานนั้นมีการพิจารณาว่าจะต่อยอดจากของเดิมหรือใช้แอปพลิเคชั่นใหม่ นอกจากนี้ทางพรรคเพื่อไทยยังยืนยันว่านโยบายนี้ “จะเป็นการวางโครงสร้างพื้นฐานทางการเงินใหม่ ที่ใช้เทคโนโลยี Blockchain อยู่เบื้องหลัง ซึ่งถูกพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจากเทคโนโลยีแบบเดิม เพื่อประโยชน์ของการพัฒนาประเทศไทยสู่เศรษฐกิจดิจิทัล” ยังคงไม่มีความชัดเจนว่าจะใช้บล็อคเชนทำอะไรในโครงการนี้ ที่มา – @Rinthipond_Ying

ความคืบหน้าของโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ทางประชาชาติธุรกิจอ้างแหล่งข่าวระบุว่ารัฐบาลกำลังหารือกับธนาคารกรุงไทยเพื่อใช้แอปเป๋าตังค์ในการแจกเงินดิจิทัลในโครงการนี้ โดยผู้รับเงินทอดแรกๆ จะไม่สามารถถอนเงินสดออกมาได้ แต่ต้องนำไปซื้อของต่อตามเงื่อนไขจึงนำเงินออกได้ นโยบาย 10,000 บาทดิจิทัลเป็นหนึ่งนโยบายในชุด Blockchain Hub แห่งอาเซียนของพรรคเพื่อไทย และถูกตั้งคำถามถึงความจำเป็นต่อการใช้งาน blockchain เรื่อยมา และพรรคเพื่อไทยเคยระบุว่าการร่วมโครงการนั้นผู้จ่ายเงินใช้เพียงบัตรประชาชนและ QR เท่านั้น จึงไม่ชัดเจนว่า blockchain จะอยู่ตรงไหนของโครงการนี้ ที่มา – ประชาชาติธุรกิจ

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างการแถลงข่าวการถวายสัตย์ปฏิญาณเข้ารับตำแหน่งของคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เมื่อวันอังคาร (5 ก.ย.) ถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท ว่าจะจ่ายงวดเดียว และคาดว่าจะใช้ได้ไม่เกินช่วง 3 เดือนแรกของปี 2567 “ยังไม่เคยบอกนะครับว่า 100 วันนะครับ แต่พยายามทำให้ได้โดยเร็วที่สุดนะครับ คิดว่าไม่เกินไตรมาส 1 ปีหน้าครับ ยังไงก็ทำครับ” นายเศรษฐาตอบคำถามสื่อมวลชน “ใช่ครับ เป็นการจ่ายงวดเดียวครับ หนเดียวครับ” การแถลงข่าวครั้งนี้เป็นที่น่าสังเกตว่านายเศรษฐากล่าวเรียกร้องหลายครั้งให้สื่อมวลชนและประชาชนให้โอกาสคณะรัฐมนตรีชุดนี้ทำงานเสียก่อน และย้ำว่าสมาชิกคณะรัฐมนตรีทุกคนทราบถึงปัญหาต่างๆ ของพี่น้องประชาชน

จากนโยบายกระเป๋าเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาทของพรรคเพื่อไทย ซึ่งต่อมามีกระแสข่าวแบ่งจ่ายเงินในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นหลายงวดนั้น   ล่าสุดวันนี้ (3 กันยายน) แฟนเพจอย่างเป็นทางการของพรรคเพื่อไทยโพสต์ข้อความระบุว่า “กระแสข่าวแบ่งจ่ายเงินในนโยบายดิจิทัลวอลเล็ตเป็นหลายงวดนั้น เป็นความเห็นส่วนตัวในเชิงวิชาการ พรรคเพื่อไทยยืนยัน 10,000 บาท งวดเดียว สร้างพายุหมุนทางเศรษฐกิจ กระตุ้นทั้งการบริโภคและการลงทุนทั่วประเทศ”   อย่างไรก็ตาม สำหรับนโยบายการให้เงินดิจิทัล 10,000 บาทต่อคน สำหรับผู้ที่มีอายุมากกว่า 16 ปีขึ้นไป ยังไม่ได้มีการกำหนดช่วงเวลาของโครงการแต่อย่างใด รวมถึงยังไม่ได้กำหนดตัวแอปพลิเคชันสำหรับการใช้งาน ABOUT THE AUTHOR THE STANDARD TEAM กองบรรณาธิการ THE STANDARD