Unity ประกาศปลดพนักงาน 265 คน คิดเป็น 3.8% ของพนักงานทั้งหมดราว 7,000 คนทั่วโลก โดยรอบนี้เป็นการปลดพนักงานในทีมวิชวลเอฟเฟคต์ Weta Digital ของผู้กำกับ Peter Jackson ที่ซื้อมาในปี 2021 ด้วยราคา 1.63 พันล้านดอลลาร์

Unity ประกาศปลดพนักงาน 265 คน คิดเป็น 3.8% ของพนักงานทั้งหมดราว 7,000 คนทั่วโลก โดยรอบนี้เป็นการปลดพนักงานในทีมวิชวลเอฟเฟคต์ Weta Digital ของผู้กำกับ Peter Jackson ที่ซื้อมาในปี 2021 ด้วยราคา 1.63 พันล้านดอลลาร์ นอกจากนี้ Unity ยังปิดสำนักงาน 14 แห่งทั่วโลกเพื่อลดค่าใช้จ่าย พนักงานบางส่วนที่ทำงานในสำนักงานเหล่านี้จะได้สิทธิทำงานจากที่บ้าน ไม่ต้องกลับเข้าออฟฟิศ (เพราะไม่มีที่ให้นั่งอีก) การปลดพนักงานรอบนี้เป็นครั้งที่สามของ Unity ในปีนี้ (ข่าวรอบก่อน) และเป็นการปลดครั้งแรกภายใต้การนำของซีอีโอชั่วคราว Jim Whitehurst อดีตซีอีโอของ Red Hat ที่มารับงานแทน John Riccitiello ซีอีโอคนก่อนที่ลาออกไปหลังดราม่าใหญ่ของบริษัท ที่มา – GamesIndustry

วิเคราะห์ทำไม ‘Black Friday’ สหรัฐฯ ปีนี้คึกคักผิดคาด ชาวอเมริกันเปย์หนัก ยอดช้อปปิ้งผ่านอีคอมเมิร์ซทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 9.8 พันล้านดอลลาร์

‘Black Friday’ คำเรียกแทนวันศุกร์ที่ต่อจากวันขอบคุณพระเจ้า (Thanksgiving) ของสหรัฐอเมริกา ที่เริ่มในสัปดาห์ที่ 4 ของเดือนพฤศจิกายนในทุกปี วันนี้เป็นเหมือนสัญลักษณ์แห่งวันเริ่มต้นเทศกาลช้อปปิ้ง ลดราคากระหน่ำที่ใหญ่ที่สุดของปี และในขณะเดียวกันก็เป็นช่วงเวลาที่นักลงทุนตั้งคำถามถึงกำลังซื้อว่า เศรษฐกิจสหรัฐฯ ปีนี้จะฟื้นตัวได้หรือไม่ ซึ่งอาจผิดคาด เมื่อยอดช้อปปิ้งผ่านอีคอมเมิร์ซปีนี้กลับทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ 9.8 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 7.5% จากปีที่แล้ว   สำนักข่าว CNBC รายงานว่า แม้ฤดูกาลช้อปปิ้งส่งท้ายปี ‘Black Friday’ ของชาวอเมริกันปีนี้มาพร้อมกับอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น และอัตราเงินเฟ้อที่ทรงตัวระดับสูงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว ก็ไม่ได้สะเทือนกระเป๋าเงินของเหล่านักช้อปชาวอเมริกันที่ล่าสุดพบว่า ยอดขายออนไลน์ในคืนวัน Black Friday ของสหรัฐฯ ทุบสถิติสูงถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์ และเพิ่มขึ้น 7.5% จากปีที่แล้ว   ตามรายงานของ Adobe Analytics ระบุว่า การใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วช่วง Black Friday ในปีนี้สะท้อนถึงกำลังซื้อของผู้บริโภคที่พร้อมจับจ่ายมากกว่าในปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นช่วงที่ราคาน้ำมันและราคาอาหารสูง และข้อบ่งชี้อีกข้อคือแรงกระตุ้นปีนี้มีปัจจัยหลักมาจากผู้บริโภคยึดติดเรื่องราคาขายและรอคอยส่วนลดสูงสุด ต้องการใช้จ่ายผ่านข้อเสนอที่ดีที่สุด ซึ่งสิ่งที่ตอบโจทย์ได้ดีคือช่องทางอีคอมเมิร์ซ   อินฟลูเอ็นเซอร์และโฆษณาบนโซเชียลมีเดียช่วยกระตุ้น … Read more

มีรายงานว่า Character.AI แพลตฟอร์มแชตบอทที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสนทนากับตัวแทนที่เสมือนเป็นคนดัง หรือคาแรกเตอร์การ์ตูนที่กำหนด ซึ่งก่อตั้งโดยสองอดีตพนักงานกูเกิล กำลังอยู่ในขั้นตอนรับเงินลงทุนได้ระดับหลายร้อยล้านดอลลาร์จาก Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล และจะทำให้มูลค่ากิจการสูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์

มีรายงานว่า Character.AI แพลตฟอร์มแชตบอทที่ให้ผู้ใช้งานสามารถสนทนากับตัวแทนที่เสมือนเป็นคนดัง หรือคาแรกเตอร์การ์ตูนที่กำหนด ซึ่งก่อตั้งโดยสองอดีตพนักงานกูเกิล กำลังอยู่ในขั้นตอนรับเงินลงทุนได้ระดับหลายร้อยล้านดอลลาร์จาก Alphabet บริษัทแม่ของกูเกิล และจะทำให้มูลค่ากิจการสูงกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ก่อนหน้านี้ Character.AI มีผู้ลงทุนหลักคือกองทุน Andreessen Horowitz ลงทุน 150 ล้านดอลลาร์ ทำให้มูลค่ากิจการเพิ่มเป็น 1 พันล้านดอลลาร์ โมเดลธุรกิจของ Character.AI นั้นให้ผู้ใช้งานใช้ได้ฟรี แต่สามารถเลือกจ่ายค่าบริการรายเดือน ๆ ละ 9.99 ดอลลาร์ เพื่อให้ได้สิทธิเข้าถึงแชตบอทที่สูงกว่า ด้วยรูปแบบดังกล่าวทำให้แพลตฟอร์มได้รับความนิยมสูงในกลุ่มผู้ใช้งานอายุน้อย มีตำแหน่งที่แตกต่างในการแข่งขันกับแชตบอทรายอื่นอย่าง ChatGPT หรือ Bard การเข้าลงทุนของกูเกิลนั้นอาจไม่ใช่เรื่องเกินคาดนัก เพราะ Character.AI ปัจจุบันใช้ TPU บน Google Cloud ในการประมวลผล AI อย่างไรก็ตามดีลนี้สะท้อนว่าบริษัทเทคโนโลยีใหญ่ต่างเพิ่มการลงทุนในสตาร์ทอัพสาย AI กันมากขึ้นเรื่อย ๆ และนี่ก็คือดีลล่าสุด ที่มา: ReadWrite

The Wall Street Journal รายงานว่ากูเกิลตกลงที่จะลงทุนใน Anthropic สตาร์ทอัพ AI ที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน OpenAI เพิ่มอีกมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเงินก้อนแรก 500 ล้านดอลลาร์ และส่วนที่เหลือจะทยอยจ่ายในอนาคต

The Wall Street Journal รายงานว่ากูเกิลตกลงที่จะลงทุนใน Anthropic สตาร์ทอัพ AI ที่ก่อตั้งโดยอดีตพนักงาน OpenAI เพิ่มอีกมูลค่า 2 พันล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นเงินก้อนแรก 500 ล้านดอลลาร์ และส่วนที่เหลือจะทยอยจ่ายในอนาคต ก่อนหน้านี้กูเกิลเคยลงทุนช่วงแรกใน Anthropic ไปแล้วมูลค่า 550 ล้านดอลลาร์ ดีลใหม่นี้เป็นส่วนเพิ่มมาถัดจากที่ Anthropic เพิ่งรับเงินลงทุนจาก Amazon มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ปัจจุบัน Anthropic มีดีลที่จะใช้บริการคลาวด์ของบริษัท Tech รายใหญ่สองรายคือกูเกิลและ Amazon ขณะที่ OpenAI ทำข้อตกลงกับไมโครซอฟท์ ซึ่งจากนี้จะเห็นการลงทุนของบริษัทรายใหญ่กับสตาร์ทอัพ AI มากขึ้น และสะท้อนอีกด้านว่าบริษัทใหญ่เหล่านี้ก็ต่างเลือกเร่งความเร็วด้าน AI ผ่านการลงทุนด้วยนั่นเอง ที่มา: The Wall Street Journal

Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ MSN ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์มีการหยิบยกหัวข้อเรื่องการซื้อกิจการ Activision Blizzard ขึ้นมา และ Satya Nadella ถูกถามว่าทำไมการซื้อกิจการครั้งนี้มันถึงสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าต้นทุนการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่าถึง 65 พันล้านดอลลาร์

Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft ให้สัมภาษณ์กับ MSN ในช่วงหนึ่งของการสัมภาษณ์มีการหยิบยกหัวข้อเรื่องการซื้อกิจการ Activision Blizzard ขึ้นมา และ Satya Nadella ถูกถามว่าทำไมการซื้อกิจการครั้งนี้มันถึงสำคัญมาก โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาว่าต้นทุนการเข้าซื้อกิจการครั้งนี้มีมูลค่าถึง 65 พันล้านดอลลาร์ Satya บอกว่าตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท เกมคือ 1 ใน 3 อาวุธหลักของ Microsoft พวกเขาก็คิดว่าการเล่นเกมเป็นพื้นที่เดียวที่ Microsoft มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในตลาดผู้บริโภค และเกมกำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในหมู่คนรุ่นใหม่ การเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ทำให้ Microsoft มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นเพื่อตอบสนองความต้องการที่จะเพิ่มขึ้นในอนาคต “ดังนั้นเราจึงตั้งตารอที่จะทุ่มเทและจริงจังมากขึ้นทั้งในฐานะผู้ผลิต และผู้จัดจำหน่ายเกม ตอนนี้เราจะเป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่ที่สุด และยังเป็นบริษัทที่สร้างแพลตฟอร์มสำหรับเกมเมอร์ของตัวเองด้วย” Satya Nadella กล่าว การเข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard ทำให้ Microsoft กลายเป็นผู้จัดจำหน่ายเกมรายใหญ่อันดับ 2 เมื่อพิจารณาจากรายได้ ที่ตามหลังบริษัท Tencent ของจีนเพียงเจ้าเดียว ที่มา – … Read more

ไมโครซอฟท์รายงานผลจากสรรพากรสหรัฐฯ เข้าตรวจสอบภาษีย้อนหลัง โดยทางสรรพากรสหรัฐฯ เรียกภาษีย้อนหลังช่วงปี 2004-2013 เพิ่มเติม 28.9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.05 ล้านล้านบาท ไม่รวมค่าปรับและดอกเบี้ย

ไมโครซอฟท์รายงานผลจากสรรพากรสหรัฐฯ เข้าตรวจสอบภาษีย้อนหลัง โดยทางสรรพากรสหรัฐฯ เรียกภาษีย้อนหลังช่วงปี 2004-2013 เพิ่มเติม 28.9 พันล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.05 ล้านล้านบาท ไม่รวมค่าปรับและดอกเบี้ย ประเด็นหลักที่ทำให้เกิดการเรียกภาษีย้อนหลังเป็นมูลค่าสูงขนาดนี้ คือสรรพากรสหรัฐฯ ไม่เห็นด้วยกับแนวทางการจัดสรรกำไรในแต่ละประเทศของไมโครซอฟท์ ซึ่งบริษัทลูกของไมโครซอฟท์นอกสหรัฐฯ ทำกำไรในประเทศอื่นๆ นอกสหรัฐฯ ผลการตรวจสอบนี้เป็นผลจากฝั่งสรรพากรสหรัฐฯ ฝั่งเดียว โดยไมโครซอฟท์ระบุว่าไม่เห็นด้วยกับผลนี้และจะต่อสู้กระบวนการต่อไป โดยขั้นแรกคือการอุทธรณ์ผลการตรวจสอบนี้กับสรรพากรสหรัฐฯ เอง กระบวนการนี้ก็อาจจะกินเวลาหลายปีแล้ว และหากยังตกลงกันไม่ได้ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการศาลต่อไป ที่มา – Microsoft ภาพสำนักงานไมโครซอฟท์ใน Colonge โดย efes

GlobalFoundries บริษัทรับผลิตชิปประกาศเปิดโรงงานใหม่มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่สิงคโปร์วันนี้ โดย Thomas Caulfield ซีอีโอของบริษัทบอกว่าเพื่อรองรับความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น มองว่าในสิบปีข้างหน้าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตอีกเท่าตัว

GlobalFoundries บริษัทรับผลิตชิปประกาศเปิดโรงงานใหม่มูลค่า 4 พันล้านดอลลาร์ ที่สิงคโปร์วันนี้ โดย Thomas Caulfield ซีอีโอของบริษัทบอกว่าเพื่อรองรับความต้องการชิปที่เพิ่มขึ้น มองว่าในสิบปีข้างหน้าอุตสาหกรรมนี้จะเติบโตอีกเท่าตัว ทั้งนี้ GlobalFoundries ประกาศแผนขยายโรงงานในสิงคโปร์เมื่อปี 2021 ซึ่งจะเพิ่มกำลังการผลิตเวเฟอร์ 300 มิลลิเมตร ได้อีก 450,000 แผ่นต่อปี รวมกำลังผลิตของ GlobalFoundries ในประเทศเป็น 1.5 ล้านแผ่น GlobalFoundries เป็นบริษัทที่แยกออกมาจาก AMD ในปี 2009 เป็นบริษัทรับผลิตชิปที่มีรายได้มากเป็นอันดับ 3 ของโลก รองจาก TSMC และ Samsung โรงงานใหม่ในสิงคโปร์นี้มีพื้นที่รวม 23,000 ตารางเมตร คาดว่าจะสร้างงานเพิ่มได้ 1,000 ตำแหน่ง จากปัจจุบันบริษัทมีพนักงาน 4,500 คน ในสิงคโปร์ ที่มา: GlobalFoundries และ CNBC

HPE หรือ Hewlett Packard Enterprise รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม มีรายได้ 7,002 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน รายได้รับต่อเนื่องรายได้ (ARR) เพิ่มขึ้น 48% เป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญี GAAP 464 ล้านดอลลาร์

HPE หรือ Hewlett Packard Enterprise รายงานผลประกอบการประจำไตรมาสที่ 3 ตามปีการเงินบริษัท 2023 สิ้นสุดเดือนกรกฎาคม มีรายได้ 7,002 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1% จากช่วงเดียวกันในปีก่อน รายได้รับต่อเนื่องรายได้ (ARR) เพิ่มขึ้น 48% เป็น 1.3 พันล้านดอลลาร์ และมีกำไรสุทธิตามบัญี GAAP 464 ล้านดอลลาร์ Antonio Neri ประธานและซีอีโอ HPE กล่าวว่าผลการดำเนินที่ออกมา เป็นผลจากธุรกิจ Intelligent Edge และ HPE GreenLake ที่โดดเด่น ส่วนกลุ่ม HPC & AI มีการยังคงแข็งแกร่งจากความต้องการที่เพิ่มขึ้นของลูกค้า สะท้อนมาที่ตัวเลขกำไรซึ่งเพิ่มสูงขึ้น กลุ่มธุรกิจ Intelligent Edge มีรายได้ 1,415 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 50% อัตรากำไรจากการดำเนินงานเพิ่มสูงเป็น 29.7%, … Read more

The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง รายงานว่าไอบีเอ็มใกล้ปิดดีลซื้อกิจการ Apptio โดยมูลค่าของดีลนี้สูงขึ้น 5 พันล้านดอลลาร์

The Wall Street Journal อ้างแหล่งข่าวที่เกี่ยวข้อง รายงานว่าไอบีเอ็มใกล้ปิดดีลซื้อกิจการ Apptio โดยมูลค่าของดีลนี้สูงขึ้น 5 พันล้านดอลลาร์ Apptio เป็นผู้ให้บริการเครื่องมือสำหรับบริหารจัดการต้นทุนค่าใช้จ่ายไอทีในองค์กร มีลูกค้าหลายรายเป็นสถาบันการเงินใหญ่ในอเมริกา ปัจจุบัน Apptio มีบริษัทการลงทุน Vista Equity เป็นเจ้าของ จากการซื้อกิจการในปี 2019 ที่มูลค่าประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ ไอบีเอ็มเองก็เป็นพาร์ทเนอร์กับ Apptio อยู่แล้ว ดีลนี้คาดว่าจะช่วยให้ไอบีเอ็มมีพอร์ตโฟลิโอบริการที่รอบด้านมากขึ้น โดยเฉพาะการช่วยองค์กรที่เป็นลูกค้า ในการประเมินต้นทุนและค่าใช้จ่ายด้านไอทีต่าง ๆ โดยเฉพาะในการจัดการปัจจุบันแบบไฮบริดคลาวด์ที่มีความซับซ้อนมากขึ้น ที่มา: WSJ

Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ประกาศข่าวว่าอินเทลจะตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่อิสราเอล มูลค่า 25 พันล้านดอลลาร์

Benjamin Netanyahu นายกรัฐมนตรีของอิสราเอล ประกาศข่าวว่าอินเทลจะตั้งโรงงานผลิตชิปแห่งใหม่ที่อิสราเอล มูลค่า 25 พันล้านดอลลาร์ อินเทลมีโรงงานผลิตชิปในอิสราเอลอยู่ก่อนแล้ว มีพนักงานในอิสราเอลราว 12,000 คน ตอนนี้อินเทลกำลังสร้างโรงงานใหม่อีกหนึ่งแห่งที่เมือง Kiryat Gat และมีกำหนดเปิดในปี 2027 อิสราเอลถือเป็นประเทศสำคัญของอินเทล เพราะมีศูนย์วิจัยออกแบบชิป 4 แห่ง รวมถึงบริษัทลูกในเครือคือ Mobileye ที่พัฒนาระบบชิปสำหรับรถยนต์ ซื้อกิจการปี 2017 และ Tower Semiconductor บริษัทผลิตชิปที่ซื้อกิจการในปี 2022 สัปดาห์ที่ผ่านมา อินเทลเพิ่งประกาศข่าวลงทุน 4.6 พันล้านดอลลาร์ สร้างโรงงานประกอบและทดสอบ (assembly and test) ที่เมือง Wrocław ประเทศโปแลนด์ กำหนดเปิดปี 2027 และจ้างงานในโปแลนด์เพิ่ม 2 พันตำแหน่ง โดยโรงงานแห่งนี้จะประสานกับโรงงานผลิตชิปที่มีอยู่แล้วในไอร์แลนด์ และโรงงานแห่งใหม่ในเยอรมนี เพื่อเป็นเครือข่ายซัพพลายเชนของธุรกิจชิปในยุโรปด้วย ที่มา – Intel, Bloomberg