หลังจากที่ ทนาย Steven Schwartz ถูกลงโทษหลังใช้คดีปลอมจาก ChatGPTมาใช้ในชั้นศาล มาคราวนี้ผู้พิพากษา Brantley Starr ในรัฐเท็กซัสได้กำหนดเกณฑ์ใหม่ด้วย “ใบรับรองว่าด้วย Generative AI” ซึ่งระบุว่า ทนายที่ว่าความในศาลของเขาจะต้องยืนยันว่า “ไม่มีการใช้ Generative AI (เช่น ChatGPT, Harvey.AI หรือ Google Bard) เพื่อสร้างสำนวนในเอกสารที่ใช้ในชั้นศาล ซึ่งรวมถึง “การอ้างคำพูด การอ้างอิง การถอดความยืนยัน และการวิเคราะห์ทางกฎหมาย” หรือหากมีก็จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องโดยสื่อสิ่งพิมพ์หรือฐานข้อมูลทางกฎหมายแบบดั้งเดิมซึ่งจัดทำโดยมนุษย์เท่านั้น”

หลังจากที่ ทนาย Steven Schwartz ถูกลงโทษหลังใช้คดีปลอมจาก ChatGPTมาใช้ในชั้นศาล มาคราวนี้ผู้พิพากษา Brantley Starr ในรัฐเท็กซัสได้กำหนดเกณฑ์ใหม่ด้วย “ใบรับรองว่าด้วย Generative AI” ซึ่งระบุว่า ทนายที่ว่าความในศาลของเขาจะต้องยืนยันว่า “ไม่มีการใช้ Generative AI (เช่น ChatGPT, Harvey.AI หรือ Google Bard) เพื่อสร้างสำนวนในเอกสารที่ใช้ในชั้นศาล ซึ่งรวมถึง “การอ้างคำพูด การอ้างอิง การถอดความยืนยัน และการวิเคราะห์ทางกฎหมาย” หรือหากมีก็จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องโดยสื่อสิ่งพิมพ์หรือฐานข้อมูลทางกฎหมายแบบดั้งเดิมซึ่งจัดทำโดยมนุษย์เท่านั้น” แม้ว่า Brantley Starr จะเป็นผู้พิพากษาเพียงคนเดียวที่เริ่มใช้หลักการนี้ แต่ก็มีแนวโน้มว่าผู้อื่นจะหันมายึดถือกฎนี้เช่นกัน โดยผู้พิพากษา Starr ระบุด้วยว่าAI อาจเป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ แต่การใช้งานจะต้องมีการระบุอย่างชัดเจนและถูกตรวจสอบความถูกต้อง ที่มา : TechCrunch

หลังจากที่ ChatGPT เปิดตัวแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดใน 11 ประเทศทั่วโลกและสร้างปรากฏการณ์มียอดดาวน์โหลดเกินครึ่งล้านเพียง 6 วัน ตั้งแต่เปิดตัว

หลังจากที่ ChatGPT เปิดตัวแอปพลิเคชันให้ดาวน์โหลดใน 11 ประเทศทั่วโลกและสร้างปรากฏการณ์มียอดดาวน์โหลดเกินครึ่งล้านเพียง 6 วัน ตั้งแต่เปิดตัว data.ai ได้วิเคราะห์จัดอันดับให้ ChatGPT เป็นแอปที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในปี 2022 และ 2023 ตั้งแต่มีการเปิดตัว ChatGPT พบว่าความต้องการของผู้บริโภคในการใช้แชตบอต AI เพิ่มขึ้นอย่างมาก ถึงแม้จะมีการเปิดตัวแอปที่มีการใช้ AI ให้ผู้บริโภคจ่ายค่าสมัครราคาสูงเพื่อเข้าถึง แต่กลุ่มแอปยอดนิยมอย่าง ChatGPT เมื่อรวมๆ กัน ก็สามารถดึงดูดผู้ใช้หลายล้านคนให้มาสมัครสมาชิกได้อยู่ดี ถึงแม้ว่าตลาดของ AI แชตบอตมีการแข่งขันที่สูงขึ้น แต่พบว่าประสิทธิภาพ ChatGPT ของ OpenAI มีประสิทธิภาพดีกว่าคู่แข่งแชตบอต AI ยอดนิยมอย่าง Bing และ Edge ของ Microsoft ที่มีระบบหลังบ้านมาจากเทคโนโลยี GPT-4 ของ OpenAI เช่นกัน แต่มียอดดาวน์โหลดเพียง 340,000 และ 335,000 ครั้ง บน iOS … Read more

หน่วยงานวิจัย Pew Research Center รายงานผลสำรวจคนอเมริกาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านเกี่ยวกับแชทบอต ChatGPT แชทบอตถามตอบพลัง AI ของ OpenAI ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา ได้ผลสรุปดังนี้

หน่วยงานวิจัย Pew Research Center รายงานผลสำรวจคนอเมริกาเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านเกี่ยวกับแชทบอต ChatGPT แชทบอตถามตอบพลัง AI ของ OpenAI ที่เป็นกระแสในช่วงที่ผ่านมา ได้ผลสรุปดังนี้ 58% ของกลุ่มตัวอย่าง บอกว่าเคยได้ยินหรือรู้จัก ChatGPT โดย 18% บอกว่ารู้จักดี ในกลุ่ม 58% ที่บอกว่ารู้จัก มีเพียง 14% ที่เคยลองใช้งาน ChatGPT ประมาณ 4 ใน 10 ของกลุ่มที่เคยใช้ ChatGPT บอกว่ามีประโยชน์ ที่มา: Pew Research

ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ปลั๊กอิน สามารถเชื่อม API จากภายนอกเข้าไปยัง Bing Chat และ Copilot ได้ โดยใช้ปลั๊กอินชุดเดียวกับที่พัฒนามาเพื่อ ChatGPT ได้เลย

ไมโครซอฟท์เพิ่มฟีเจอร์ปลั๊กอิน สามารถเชื่อม API จากภายนอกเข้าไปยัง Bing Chat และ Copilot ได้ โดยใช้ปลั๊กอินชุดเดียวกับที่พัฒนามาเพื่อ ChatGPT ได้เลย แนวทางการใช้งานโดยทั่วไปเหมือนการใช้งานปลั๊กอินบน ChatGPT ที่ทำให้การแชตสามารถตอบจากข้อมูลปัจจุบัน, เชื่อมต่อร้านค้าเพื่อเตรียมสั่งของตามรายการในแชต เป็นต้น แต่เนื่องจากปลั๊กอินสามารถทำงานใน Copilot ได้ด้วยทำให้สามารถทำงานกับเอกสารต่างๆ ได้โดยตรง ไมโครซอฟท์สาธิตในงาน Build ด้วยการร่างสัญญาและให้ปรับปรุงสัญญาใน Word ด้วยปลั๊กอิน Practical Laws ของ Thomson Reuters หรือถามเพิ่มเติมว่าสัญญามีจุดที่ขัดกับกฎหมายหรือไม่ นอกจากการนำปลั๊กอินที่พัฒนาสำหรับ ChatGPT มาใช้งานแล้ว ไมโครซอฟท์ยังสร้างปลั๊กอิน Bing ให้กับ ChatGPT เอง ทำให้ ChatGPT สามารถตอบคำถามตามข้อมูลปัจจุบันได้มากขึ้น ที่มา – Bing Blog

ถึงแม้ว่าวันนี้ OpenAI จะประกาศเปิดตัวแอปฯ ChatGPT สำหรับ iOS แต่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก็ได้ประกาศสั่งห้ามพนักงานในบริษัทใช้ ChatGPT ในการทำงาน ซึ่งบริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถเก็บข้อมูลความลับจากพนักงานได้ ยังรวมไปห้ามใช้เครื่องอื่นเช่น GitHub Copilot ที่ช่วยเขียนโค้ด

ถึงแม้ว่าวันนี้ OpenAI จะประกาศเปิดตัวแอปฯ ChatGPT สำหรับ iOS แต่บริษัทเทคยักษ์ใหญ่อย่าง Apple ก็ได้ประกาศสั่งห้ามพนักงานในบริษัทใช้ ChatGPT ในการทำงาน ซึ่งบริษัทมีความกังวลเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม AI ที่สามารถเก็บข้อมูลความลับจากพนักงานได้ ยังรวมไปห้ามใช้เครื่องอื่นเช่น GitHub Copilot ที่ช่วยเขียนโค้ด ChatGPT มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับ Microsoft เนื่องจากมีการส่งข้อมูลให้นักพัฒนาสามารถเทรน AI ก่อนหน้านี้เดือนมีนาคมก็เกิดข้อผิดพลาดที่ผู้ใช้สามารถดูประวัติการแชท ChatGPT ของคนอื่นได้ หลังจากนั้น ChatGPT ได้เพิ่มตัวเลือกเพื่อให้ผู้ใช้ปิดประวัติแชทของตนและไม่มีส่วนร่วมในการนำข้อมูลไปเทรน AI ถ้าหากทางวิศวกรของ Apple ใช้แพลตฟอร์มเหล่านี้ช่วยการทำงาน ก็ไม่สามารถแน่ใจได้ว่าข้อมูลจะไม่รั่วไหล รวมไปถึงการทำงานด้านอื่นอย่างใช้ ChatGPT เขียนเมลก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเนื้อหาข้อมูลภายในของบริษัทอาจจะถูกเปิดเผย Apple ไม่ใช่บริษัทเดียวที่สั่งห้ามใช้ ChatGPT ก่อนหน้านี้มี JPMorgan Chase,Verizon, Amazon และ Samsung ที่สั่งห้ามด้วยเช่นกัน มีข่าวลือว่า Apple ก็กำลังทดสอบเทคโนโลยีที่ชื่อว่า “Bobcat” ซึ่งเป็น AI ภาษาที่จะถูกนำมาใช้กับ Siri … Read more

OpenAI เปิดตัวแอป ChatGPT บนมือถืออย่างเป็นทางการ โดยเริ่มที่ ChatGPT บน iOS ตอนนี้เปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะ App Store อเมริกาที่เดียว ส่วนประเทศอื่นจะทยอยตามมาในภายหลัง

OpenAI เปิดตัวแอป ChatGPT บนมือถืออย่างเป็นทางการ โดยเริ่มที่ ChatGPT บน iOS ตอนนี้เปิดให้ดาวน์โหลดเฉพาะ App Store อเมริกาที่เดียว ส่วนประเทศอื่นจะทยอยตามมาในภายหลัง ChatGPT บนมือถือสามารถใช้งานได้ฟรี ซิงก์ประวัติการใช้งานข้ามอุปกรณ์ได้ รองรับการป้อนข้อมูลด้วยเสียงผ่าน Whisper สำหรับผู้สมัครใช้งาน ChatGPT Plus จะได้สิทธิเข้าถึงความสามารถของ GPT-4 และได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ก่อนใคร ส่วนผู้ใช้ Android ทาง OpenAI บอกว่าเร็ว ๆ นี้ ที่มา: OpenAI

ChatGPT ประกาศว่าลูกค้าที่สมัครใช้งาน ChatGPT Plus จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ทั้งส่วนการเข้าดูข้อมูลเว็บ และปลั๊กอินต่าง ๆ ได้ก่อนในสถานะเบต้า ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถต่อยอดความสามารถ ChatGPT ได้กว้างมากขึ้น

ChatGPT ประกาศว่าลูกค้าที่สมัครใช้งาน ChatGPT Plus จะสามารถเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ทั้งส่วนการเข้าดูข้อมูลเว็บ และปลั๊กอินต่าง ๆ ได้ก่อนในสถานะเบต้า ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานสามารถต่อยอดความสามารถ ChatGPT ได้กว้างมากขึ้น ทั้งนี้การเข้าถึงฟีเจอร์ใหม่ ๆ ผู้ใช้งาน ChatGPT Plus ต้องกำหนดเปิดใช้งานเองในหน้า Settings (opt-in) โดยหลังจากทดสอบในสถานะเบต้าจนมีความพร้อม ฟีเจอร์เหล่านั้นจะเผยแพร่กับผู้ใช้งานทั่วไปต่อไป ในขณะนี้ ChatGPT มีปลั๊กอินที่เปิดให้ใช้งานในสถานะ 70 รายการ ที่มา: OpenAI ผ่าน Search Engine Journal

ไมโครซอฟท์ประกาศยกระดับบริการ Bing Chat ที่ใช้ GPT-4 ของ OpenAI อยู่เบื้องหลัง โดยแนวทางสำคัญที่สุดคือการเปิดบริการเป็นสาธารณะ ไม่ต้องเข้าคิวรอใช้งานอีกแล้ว พร้อมกันนั้นเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาอีกหลายอย่าง จนน่าจะใกล้เคียง ChatGPT ในตอนนี้

ไมโครซอฟท์ประกาศยกระดับบริการ Bing Chat ที่ใช้ GPT-4 ของ OpenAI อยู่เบื้องหลัง โดยแนวทางสำคัญที่สุดคือการเปิดบริการเป็นสาธารณะ ไม่ต้องเข้าคิวรอใช้งานอีกแล้ว พร้อมกันนั้นเพิ่มฟีเจอร์เข้ามาอีกหลายอย่าง จนน่าจะใกล้เคียง ChatGPT ในตอนนี้ การตอบด้วยภาพและวิดีโอได้ในแชตโดยตรง ทำให้ผู้ใช้เห็นคำตอบได้ทันทีไม่ต้องกดลิงก์ไปดูภาพภายนอก ปรับแชตให้มีประวัติการใช้งาน และแยกเรื่องราวที่กำลังคุยกันอยู่ออกจากกันได้ แบบเดียวกับ ChatGPT นอกจากนี้ยัง import/export แชตได้ด้ว เตรียมเพิ่มฟีเจอร์อ่านเอกสารขนาดยาว ผู้ใช้สามารถใส่ PDF หรือเว็บที่ข้อความยาวมากๆ (ไม่ระบุข้อจำกัดว่ายาวเพียงใด) และขอให้ Bing Chat สรุปออกมาได้ เตรียมเปิดใช้ส่วนขยายแบบเดียวกับ ChatGPT Plugins โดยยังไม่พูดถึงว่าจะมีปลั๊กอินอะไรบ้าง แต่ที่พูดถึงแล้ว เช่น OpenTable จองร้านอาหารจากในแชต หรือ Wolfram|Alpha สำหรับการแสดงสมการหรือกราฟที่ซับซ้อน รวมเอา Image Creator เข้ามาในตัว ทำให้สร้างภาพจากในแชตได้เลย บริการในกลุ่มแชตในช่วงหลังมีการอัพเดตความเปลี่ยนแปลงระดับสัปดาห์ เช่นปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา Bing Chat ก็เพิ่งปรับปรุงการตอบสูตรอาหารไป แต่ฟีเจอร์หนึ่งของ GPT-4 … Read more