กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำหรับกล่องค้นหาหรือ Omnibox ใน Chrome ซึ่งช่วยให้การเข้าเว็บไซต์หรือค้นหา ทำได้เร็วมากยิ่งขึ้น มีผลทั้งเบราว์เซอร์ในเดสก์ท็อปและมือถือ รายละเอียดดังนี้

กูเกิลประกาศเพิ่มฟีเจอร์สำหรับกล่องค้นหาหรือ Omnibox ใน Chrome ซึ่งช่วยให้การเข้าเว็บไซต์หรือค้นหา ทำได้เร็วมากยิ่งขึ้น มีผลทั้งเบราว์เซอร์ในเดสก์ท็อปและมือถือ รายละเอียดดังนี้ Autocomplete ที่ฉลาดขึ้น – โดยจะแนะนำ URL หากพิมพ์คำเริ่มต้นตรงกับส่วนหนึ่งก็ได้ ตัวอย่างเว็บ Google Flights เดิมต้องพิมพ์ google.com เริ่มต้นก่อน แต่ตอนนี้พิมพ์ว่า flights ก็สามารถ autocomplete เป็น https://www.google.com/travel/flights ได้ ช่วยแก้คำผิด – หากพิมพ์ URL หรือคำค้นไม่ถูก Chrome ก็สามารถแนะนำ URL ที่สะกดถูกต้องมาให้ได้ แสดงผลค้นหารวมทั้งในโฟลเดอร์ bookmark ด้วย แนะนำเว็บไซต์ยอดนิยม ถึงแม้ประวัติไม่เคยเข้าชมเว็บไซต์นั้นมาก่อน Chrome ในเดสก์ท็อปปรับปรุงการตอบสนองและแสดงผลแนะนำ ทำให้เร็วและอ่านง่ายขึ้น ที่มา: กูเกิล

Firefox 119 ที่กำลังจะออกมีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง เช่น การเปิดแท็บกลับทีละมากๆ, รองรับการย้ายโปรไฟล์จาก Chrome แต่ฟีเจอร์เล็กๆ อันหนึ่งคือการแก้บั๊ก 148624 บั๊ก tooltip ค้างไม่ยอมหายไป แม้หน้าต่าง Firefox จะอยู่เบื้องหลังหรือย่อไปแล้ว

Firefox 119 ที่กำลังจะออกมีฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง เช่น การเปิดแท็บกลับทีละมากๆ, รองรับการย้ายโปรไฟล์จาก Chrome แต่ฟีเจอร์เล็กๆ อันหนึ่งคือการแก้บั๊ก 148624 บั๊ก tooltip ค้างไม่ยอมหายไป แม้หน้าต่าง Firefox จะอยู่เบื้องหลังหรือย่อไปแล้ว บั๊กนี้มีการรายงานครั้งแรกสุดตั้งแต่กลางปี 2000 และมีการรายงานอีกหลายครั้ง สุดท้ายจึงรวบเป็นบั๊กเดียวหมายเลข 148624 นี้ ความยากของบั๊กนี้คือไม่ได้เกิดกับทุกคน บางคนบอกว่านานๆ จะพบสักครั้ง บางคนบอกว่าพบทุกวัน แต่เมื่อเดือนที่ผ่านมาผู้ใช้ fanzhuyifan ก็รายงานขั้นตอนการกระตุ้นให้พบบั๊กนี้ได้ พร้อมกับส่งแพตช์แก้ไข จึงปิดบั๊กได้ในที่สุด ปิดตำนานบั๊ก 24 ปีลง ที่มา – Bugzilla

Cloudflare เริ่มทดสอบกระบวนการแลกกุญแจแบบทนทานต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ประกาศว่ากระบวนการนี้เข้าสู่สถานะ GA เปิดให้ใช้งานได้ทั่วไป ขณะที่ Chrome เองก็กำลังทดลองการรองรับกระบวนการแลกกุญแจแบบนี้ ทำให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งจะเชื่อมต่อแบบทนทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมมากขึ้นเรื่อยๆ

Cloudflare เริ่มทดสอบกระบวนการแลกกุญแจแบบทนทานต่อคอมพิวเตอร์ควอนตัมมาตั้งแต่ปีที่แล้ว และตอนนี้ก็ประกาศว่ากระบวนการนี้เข้าสู่สถานะ GA เปิดให้ใช้งานได้ทั่วไป ขณะที่ Chrome เองก็กำลังทดลองการรองรับกระบวนการแลกกุญแจแบบนี้ ทำให้ผู้ใช้จำนวนหนึ่งจะเชื่อมต่อแบบทนทานคอมพิวเตอร์ควอนตัมมากขึ้นเรื่อยๆ การรองรับกระบวนการแลกกุญแจใหม่นี้รองรับทั้งการเชื่อมต่อขาเข้าจากเบราว์เซอร์และขาออกที่ Cloudflare ต้องเชื่อมต่อไปยังเซิร์ฟเวอร์ลูกค้า รวมถึงการเรียกเว็บภายนอกผ่าน Cloudflare Workers ด้วย ส่วนเน็ตเวิร์คภายในของ Cloudflare เองนั้นคาดว่าจะอัพเกรดทั้งหมดได้ภายในสิ้นปี 2024 การซัพพอร์ตจะค่อยๆ เพิ่มกลุ่มลูกค้าไปเรื่อยๆ ลูกค้าฟรีจะเปิดใช้งานทั้งหมดภายในเดือนตุลาคมนี้, ส่วนลูกค้าจ่ายเงินจะเปิดใช้งานภายในสิ้นปี และลูกค้าระดับองค์กรจะเปิดใช้งานภายในมีนาคม 2024 กระบวนการแลกกุญแจที่ใช้ คือ Kyber768Draft00 เป็นการซ้อนกันระหว่าง Kyber และ X25519 โดยตอนนี้มาตรฐานการแลกกุญแจยังไม่เสร็จสิ้นดีนัก ทาง Cloudflare ระบุว่าหากมาตรฐานเสร็จจริงแล้วก็จะรองรับมาตรฐานเวอร์ชั่นเต็มโดยเร็ว ที่มา – Cloudflare

กูเกิลอัพเดต Chrome เวอร์ชัน 117.0.5938.132 แก้ไขช่องโหว่ Zero-Day CVE-2023-5217 เกี่ยวกับ heap buffer overflow ของ libvpx ซึ่งกูเกิลใช้เวลา 2 วัน หลังจากมีการเปิดเผยช่องโหว่นี้ออกมา และเป็นการแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ครั้งที่ห้าของปีนี้ ผู้ใช้งานควรอัพเดตทันที

กูเกิลอัพเดต Chrome เวอร์ชัน 117.0.5938.132 แก้ไขช่องโหว่ Zero-Day CVE-2023-5217 เกี่ยวกับ heap buffer overflow ของ libvpx ซึ่งกูเกิลใช้เวลา 2 วัน หลังจากมีการเปิดเผยช่องโหว่นี้ออกมา และเป็นการแก้ไขช่องโหว่ Zero-Day ครั้งที่ห้าของปีนี้ ผู้ใช้งานควรอัพเดตทันที ทั้งนี้กูเกิลยังไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับช่องโหว่ดังกล่าว โดยจะเผยแพร่เมื่อมีผู้ใช้งานส่วนใหญ่ได้อัพเดต Chrome เป็นเวอร์ชันล่าสุดแล้ว Chrome เวอร์ชันนี้ยังอัพเดตแก้ไขช่องโหว่อีกสองรายการคือ CVE-2023-5186 และ CVE-2023-5187 ด้วย Mozilla ก็ออกอัพเดต Firefox เพื่อแก้ไขช่องโหว่นี้เช่นกันใน Firefox เวอร์ชัน 118.0.1 สำหรับเดสก์ท็อป รวมถึงในแพลตฟอร์มอื่นด้วย ที่มา: Chrome Releases และ Mozilla

สัปดาห์ที่ผ่านมา Citizen Lab รายงานถึงช่องโหว่ที่ใช้เจาะ iPhone ผ่านทาง iMessage ได้โดยเหยื่อไม่ต้องคลิกใดๆ ตอนนี้แอปเปิลก็พบว่าช่องโหว่นี้ที่จริงแล้วเป็นช่องโหว่ heap overflow ของ libwebp ซึ่งกระทบเบราว์เซอร์อื่นๆ ด้วย ตอนนี้ทั้ง Chrome ก็ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว ในเวอร์ชั่น 116.0.5845.187 และ 116.0.5845.187

สัปดาห์ที่ผ่านมา Citizen Lab รายงานถึงช่องโหว่ที่ใช้เจาะ iPhone ผ่านทาง iMessage ได้โดยเหยื่อไม่ต้องคลิกใดๆ ตอนนี้แอปเปิลก็พบว่าช่องโหว่นี้ที่จริงแล้วเป็นช่องโหว่ heap overflow ของ libwebp ซึ่งกระทบเบราว์เซอร์อื่นๆ ด้วย ตอนนี้ทั้ง Chrome ก็ออกแพตช์แก้ไขช่องโหว่นี้แล้ว ในเวอร์ชั่น 116.0.5845.187 และ 116.0.5845.187 แพตช์เดียวกันถูกส่งเข้า Firefox แล้ว คาดว่าจะออกเป็นเวอร์ชั่น 117.0.1 ภายในเร็วๆ นี้ ตัวช่องโหว่ที่ใช้เจาะ iPhone จริงๆ นั้นเป็นชุดช่องโหว่ร่วมกับช่องโหว่อื่นด้วย ไม่แน่ชัดว่าช่องโหว่ใน libwebp อย่างเดียวจะมีความร้ายแรงเพียงใด หลังจากนี้เมื่อแพตช์กระจายทั่วแล้วก็น่าจะเริ่มมีรายงานวิเคราะห์ช่องโหว่อย่างละเอียดออกมา ที่มา – Chrome Release

Firefox เปลี่ยนมาใช้ระบบส่วนขยาย WebExtension แบบเดียวกับ Chrome มาตั้งแต่ปี 2017 แต่วิธีการใช้งานยังจำกัดว่าต้องติดตั้งส่วนขยายจาก addons.mozilla.com เท่านั้น (นักพัฒนาส่วนขยายบน Chrome ต้องนำไฟล์ของตัวเองขึ้นมาแจกจ่ายบนระบบของ Firefox ด้วย)

Firefox เปลี่ยนมาใช้ระบบส่วนขยาย WebExtension แบบเดียวกับ Chrome มาตั้งแต่ปี 2017 แต่วิธีการใช้งานยังจำกัดว่าต้องติดตั้งส่วนขยายจาก addons.mozilla.com เท่านั้น (นักพัฒนาส่วนขยายบน Chrome ต้องนำไฟล์ของตัวเองขึ้นมาแจกจ่ายบนระบบของ Firefox ด้วย) ล่าสุด Firefox เพิ่มฟีเจอร์ import ส่วนขยายจาก Chrome ที่ติดตั้งอยู่ในเครื่องเดียวกันแล้ว วิธีการใช้งานต้องเข้าไปยังหน้า about:config แล้วเปลี่ยนค่า browser.migrate.chrome.extensions.enabled เป็น True ก่อน จากนั้นเข้าหน้า Settings > กดปุ่ม Import Data หากเลือกนำเข้าข้อมูลจาก Chrome จะมีตัวเลือก Extensions เพิ่มเข้ามาจากข้อมูลประเภทอื่น เช่น passwords, history, autofill data เป็นต้น อย่างไรก็ตาม การนำเข้าข้อมูลไม่ได้เป็นการนำไฟล์ส่วนขยายมาใช้ตรงๆ แต่ Firefox จะดูว่าส่วนขยายใดมีทั้งบน Chrome และ Firefox หากมีตรงกันจะติดตั้งส่วนขยายเวอร์ชัน … Read more

ทีมวิศวกร Chrome เล่าเบื้องหลังการแก้ปัญหา Chrome บน Android เลื่อนหน้าจอแล้วไม่ลื่นเท่ากับบน iOS ซึ่งอาการเกิดเป็นช่วงๆ ไม่เกิดขึ้นสม่ำเสมอด้วย เป็นบั๊กปริศนาที่กวนใจทีมงานมานาน จึงตั้งใจสืบสวนสาเหตุว่าเกิดจากอะไรกันแน่

ทีมวิศวกร Chrome เล่าเบื้องหลังการแก้ปัญหา Chrome บน Android เลื่อนหน้าจอแล้วไม่ลื่นเท่ากับบน iOS ซึ่งอาการเกิดเป็นช่วงๆ ไม่เกิดขึ้นสม่ำเสมอด้วย เป็นบั๊กปริศนาที่กวนใจทีมงานมานาน จึงตั้งใจสืบสวนสาเหตุว่าเกิดจากอะไรกันแน่ ทีมงานลองหาาสาเหตุหลายจุด ก่อนไปพบว่าการดักจับความเคลื่อนไหวของนิ้วบนหน้าจอ (screen displacement รูปขวา) ไม่เท่ากับความเคลื่อนไหวของนิ้วจริงๆ (finger displacement รูปซ้าย) ทำให้เมื่อนำข้อมูลนิ้วที่จับได้ไปประมวลผลจึงออกมาไม่ตรงกับนิ้วจริงๆ ทีมงานลองค้นหาสาเหตุว่าทำไมถึงเป็นอย่างนี้ เจอสาเหตุร่วมกัน 2 ข้อ Android ดักจับความเคลื่อนไหวด้วย C++ ระดับความแม่นยำ nanosecond แต่ Chrome ใช้ฟังก์ชันระดับ Java ความแม่นยำ millisecond จึงไม่ละเอียดเท่า วิธีการดักจับของ Android เลือกอีเวนต์การเคลื่อนไหวที่แม่นยำกว่าของ Chrome ใช้การเก็บคิว FIFO ธรรมดา จึงมีโอกาสผิดพลาดสูงกว่า โดยเฉพาะบนหน้าจอที่มีอัตรารีเฟรชสูงๆ ตัว API ของ Android ที่ดักจับความแม่นยำระดับ nanosecond ยังไม่เปิดให้แอพภายนอกเรียกใช้ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงใน … Read more

เว็บเบราว์เซอร์อย่าง Chrome มีฟีเจอร์แปลภาษาหน้าเว็บมานานมาก เบื้องหลังการทำงานของมันคือส่งข้อความบนหน้าเว็บไปยังบริการ Google Translate บนเซิร์ฟเวอร์กูเกิล โดยเบราว์เซอร์ตัวอื่น (เช่น Edge) ก็มีการทำงานแบบเดียวกัน แต่ใช้บริการแปลภาษาต่างกันไป

เว็บเบราว์เซอร์อย่าง Chrome มีฟีเจอร์แปลภาษาหน้าเว็บมานานมาก เบื้องหลังการทำงานของมันคือส่งข้อความบนหน้าเว็บไปยังบริการ Google Translate บนเซิร์ฟเวอร์กูเกิล โดยเบราว์เซอร์ตัวอื่น (เช่น Edge) ก็มีการทำงานแบบเดียวกัน แต่ใช้บริการแปลภาษาต่างกันไป Firefox เป็นเบราว์เซอร์ที่ยังไม่มีฟีเจอร์แปลภาษาอัตโนมัติมานาน ด้วยเหตุผลว่าการส่งข้อความไปแปลบนเซิร์ฟเวอร์อื่นจะกระทบความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้ แต่ปัญหานี้กำลังจะหมดไป เพราะ Firefox 117 (ตอนนี้เป็น Beta) เพิ่มฟีเจอร์แปลภาษาในเครื่องของผู้ใช้เองมาให้แล้ว ระบบแปลภาษาที่ Firefox ใช้งานคือ Bergamot เป็นโครงการร่วมของมหาวิทยาลัย 4 แห่ง ได้แก่ University of Edinburgh, Charles University, University of Sheffield, University of Tartu และได้ทุนสนับสนุนจาก EU ให้สร้างระบบแปลภาษา machine translation ที่รันในเบราว์เซอร์โดยตรง ที่ผ่านมา ฟีเจอร์นี้ถูกใช้งานแล้วผ่านส่วนขยาย Firefox Translations มีผู้ใช้อยู่ราว 3 แสนคน และมันกำลังจะถูกผนวกเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ … Read more

กูเกิลประกาศลดระยะเวลาออกอัพเดต Chrome ผ่าน stable channel ส่วนที่เป็นอัพเดตด้านความปลอดภัยให้เร็วขึ้น จากเดิมมีอัพเดตทุก 2 สัปดาห์ เหลือเป็นทุก 1 สัปดาห์ ส่วนอัพเดตใหญ่ที่เป็นเลขเวอร์ชัน ยังคงเป็นรอบอัพเดต 4 สัปดาห์ เหมือนเดิม

กูเกิลประกาศลดระยะเวลาออกอัพเดต Chrome ผ่าน stable channel ส่วนที่เป็นอัพเดตด้านความปลอดภัยให้เร็วขึ้น จากเดิมมีอัพเดตทุก 2 สัปดาห์ เหลือเป็นทุก 1 สัปดาห์ ส่วนอัพเดตใหญ่ที่เป็นเลขเวอร์ชัน ยังคงเป็นรอบอัพเดต 4 สัปดาห์ เหมือนเดิม กูเกิลให้เหตุผลว่าด้วยรูปแบบของโครงการ Chromium ทำให้อาจมีผู้ไม่ประสงค์ดี ตรวจสอบรายการช่องโหว่ที่รายงานเข้ามา และใช้ช่องทางนั้นโจมตีผู้ใช้งานในระหว่างเวลาที่อัพเดตยังไม่ออกมาสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป รอบการอัพเดตที่ลดลงเหลือทุก 1 สัปดาห์จะช่วยปิดช่องว่างนี้ได้ การเปลี่ยนแปลงนี้ผู้ใช้งานอาจเห็นการแจ้งเตือนอัพเดต Chrome บ่อยขึ้น ซึ่งตั้งแต่ Chrome 116 เป็นต้นไป กูเกิลจะทดสอบการอัพเดตเป็นแถบเล็ก ๆ ที่มุมบนขวา ให้สะดวกกับผู้ใช้งานมากขึ้นนั่นเอง ที่มา: กูเกิล

ไมโครซอฟท์ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Bing ตัวใหม่ที่รองรับแชท AI จะทำงานได้ผ่านเบราว์เซอร์อื่นที่ไม่ใช่ Edge เช่น Chrome หรือ Safari หลังจากเริ่มทดสอบไปเมื่อเดือนที่แล้ว

ไมโครซอฟท์ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Bing ตัวใหม่ที่รองรับแชท AI จะทำงานได้ผ่านเบราว์เซอร์อื่นที่ไม่ใช่ Edge เช่น Chrome หรือ Safari หลังจากเริ่มทดสอบไปเมื่อเดือนที่แล้ว อย่างไรก็ตามไมโครซอฟท์ก็แนะนำให้ใช้เบราว์เซอร์ Edge เพื่อให้ได้ประสบการณ์ที่ดีที่สุด (ข้อมูลที่ไมโครซอฟท์บอกคือตั้งแต่เปิดตัว Bing ใหม่นี้ จำนวนผู้ใช้ Edge ก็เพิ่มขึ้นทุกเดือน) เช่น การป้อนบทสนทนาที่ยาวมากกว่า, การดูประวัติแชท และฟีเจอร์ใหม่ ๆ จะนำมาใส่สำหรับผู้ใช้งาน Edge ก่อน ไมโครซอฟท์ยังประกาศสถิติหลังจากเปิดตัว Bing ใหม่ ตั้งแต่ 6 เดือนที่แล้ว โดยมีแชทมากกว่า 1 พันล้านชุด มีรูปที่ถูกสร้างผ่าน Image Creator มากกว่า 750 ล้านภาพ ที่มา: ไมโครซอฟท์