หลังจากที่ ทนาย Steven Schwartz ถูกลงโทษหลังใช้คดีปลอมจาก ChatGPTมาใช้ในชั้นศาล มาคราวนี้ผู้พิพากษา Brantley Starr ในรัฐเท็กซัสได้กำหนดเกณฑ์ใหม่ด้วย “ใบรับรองว่าด้วย Generative AI” ซึ่งระบุว่า ทนายที่ว่าความในศาลของเขาจะต้องยืนยันว่า “ไม่มีการใช้ Generative AI (เช่น ChatGPT, Harvey.AI หรือ Google Bard) เพื่อสร้างสำนวนในเอกสารที่ใช้ในชั้นศาล ซึ่งรวมถึง “การอ้างคำพูด การอ้างอิง การถอดความยืนยัน และการวิเคราะห์ทางกฎหมาย” หรือหากมีก็จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องโดยสื่อสิ่งพิมพ์หรือฐานข้อมูลทางกฎหมายแบบดั้งเดิมซึ่งจัดทำโดยมนุษย์เท่านั้น”

หลังจากที่ ทนาย Steven Schwartz ถูกลงโทษหลังใช้คดีปลอมจาก ChatGPTมาใช้ในชั้นศาล มาคราวนี้ผู้พิพากษา Brantley Starr ในรัฐเท็กซัสได้กำหนดเกณฑ์ใหม่ด้วย “ใบรับรองว่าด้วย Generative AI” ซึ่งระบุว่า ทนายที่ว่าความในศาลของเขาจะต้องยืนยันว่า “ไม่มีการใช้ Generative AI (เช่น ChatGPT, Harvey.AI หรือ Google Bard) เพื่อสร้างสำนวนในเอกสารที่ใช้ในชั้นศาล ซึ่งรวมถึง “การอ้างคำพูด การอ้างอิง การถอดความยืนยัน และการวิเคราะห์ทางกฎหมาย” หรือหากมีก็จะต้องมีการตรวจสอบความถูกต้องโดยสื่อสิ่งพิมพ์หรือฐานข้อมูลทางกฎหมายแบบดั้งเดิมซึ่งจัดทำโดยมนุษย์เท่านั้น” แม้ว่า Brantley Starr จะเป็นผู้พิพากษาเพียงคนเดียวที่เริ่มใช้หลักการนี้ แต่ก็มีแนวโน้มว่าผู้อื่นจะหันมายึดถือกฎนี้เช่นกัน โดยผู้พิพากษา Starr ระบุด้วยว่าAI อาจเป็นเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ แต่การใช้งานจะต้องมีการระบุอย่างชัดเจนและถูกตรวจสอบความถูกต้อง ที่มา : TechCrunch

Anthropic สตาร์ตอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ ประกาศระดมทุนรอบ C สำเร็จรวมมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศว่า Zoom ลงทุน แต่เมื่อประกาศรายชื่อผู้ลงทุนทั้งหมด ก็มีบริษัทใหญ่ๆ เช่น Google, Saleforce Ventures, Sound Ventures เข้ามาร่วมลงทุนในรอบเดียวกัน

Anthropic สตาร์ตอัพด้านปัญญาประดิษฐ์ ประกาศระดมทุนรอบ C สำเร็จรวมมูลค่า 450 ล้านดอลลาร์ หลังจากก่อนหน้านี้ประกาศว่า Zoom ลงทุน แต่เมื่อประกาศรายชื่อผู้ลงทุนทั้งหมด ก็มีบริษัทใหญ่ๆ เช่น Google, Saleforce Ventures, Sound Ventures เข้ามาร่วมลงทุนในรอบเดียวกัน Claude AI ของ Anthropic นั้นค่อนข้างก้าวหน้ามาก โดยรายงานจาก LMSYS ที่ให้บริการเทียบเคียงแชตบอต ระบุว่าคะแนน ELO ของ Claude AI นั้นดีกว่า ChatGPT เวอร์ชั่น 3.5 ทั้งตัว v1 ตัวเต็ม และ instant v1 ที่ทำงานได้เร็วกว่า นอกจากนี้ Claude ยังรองรับ context ขนาดถึง 100K ซึ่งสามารถอ่านหนังสือได้นับร้อยหน้าภายในเวลา 22 วินาทีเท่านั้น ขณะที่ GPT-4 มีเวอร์ชั่น … Read more

Google Trust Service (GTS) บริการออกใบรับรองเข้ารหัสเว็บ (Certification Authority – CA) ของกูเกิลประกาศเปิดให้บริการออกใบรับรองแก่ผู้ที่มีบัญชี Google Cloud ทุกคน หลังจากเปิดบริการนี้เมื่อปีที่แล้วในวงจำกัด

Google Trust Service (GTS) บริการออกใบรับรองเข้ารหัสเว็บ (Certification Authority – CA) ของกูเกิลประกาศเปิดให้บริการออกใบรับรองแก่ผู้ที่มีบัญชี Google Cloud ทุกคน หลังจากเปิดบริการนี้เมื่อปีที่แล้วในวงจำกัด GTS ให้บริการผ่านโปรโตคอล ACME จึงใช้งานกับโปรแกรมเดิมที่ขอใบรับรองจาก Let’s Encrypt ได้ สำหรับผู้ดูแลเว็บ ก็อาจจะเลือกคอนฟิก CA ไว้หลายแห่งพร้อมกันเพื่อป้องกันปัญหาในกรณีที่ CA บางรายล่มไป หรือบางครั้ง CA อาจจะมีบั๊กจนต้องออกใบรับรองใหม่จำนวนมากจนให้บริการไม่ทัน นอกจากการรองรับ ACME แล้ว GTS ยังรองรับการตรวจสอบโดเมนจากหลายทิศทาง (Multi-perspective Domain Validation – MPDV) เพื่อป้องกันเว็บถูกดึงทราฟิกผ่าน BGP ปลอม และรองรับ API แจ้งข้อมูลการต่ออายุใบรับรอง หรือ ACME Renewal Information (ARI) ที่ยังอยู่ระหว่างกรร่างมาตรฐาน โดย ARI เปิดทางให้เซิร์ฟเวอร์รู้ตัวล่วงหน้าว่าใบรับรองกำลังจะใช้งานไม่ได้ … Read more

หลังจากประสบความสำเร็จกับการปล่อยเบต้าของ Google Play Games สำหรับ PC ไปในบางภูมิภาคแล้วในตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ Google จะนำ Google Play Games สำหรับ PC มาปล่อยให้ชาวยุโรป และ นิวซีแลนด์ได้เล่นกันแล้ว

หลังจากประสบความสำเร็จกับการปล่อยเบต้าของ Google Play Games สำหรับ PC ไปในบางภูมิภาคแล้วในตอนนี้ถึงเวลาแล้วที่ Google จะนำ Google Play Games สำหรับ PC มาปล่อยให้ชาวยุโรป และ นิวซีแลนด์ได้เล่นกันแล้ว จากรายงานของ 9to5Google เว็บไซต์ข่าวสารสำหรับ Google ได้บอกว่าตอนนี้ Google Play Games สำหรับ PC ได้เปิด Beta ในเประเทศใหม่ ๆ ไปกว่า 42 ประเทศแล้ว ซึ่งรวมทั้งหมดเท่ากับเปิดให้เล่นแล้วถึง 56 ประเทศเลยทีเดียว โดย Google Play Games สำหรับ PC นั้นจะรองรับเกมมากกว่า 100 เกม อาทิเช่น 1945 Air Force, Blade Idle และ Cookie Run: … Read more

ในช่วงหลัง ๆ มานี้ระบบ Passkey เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่ตัว Passkey นั้นใช้งานค่อนข้างง่ายลดความเสี่ยงจากการใช้รหัสเดิมซ้ำ ๆ และลดยุ่งยากจากใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 Fator Authentication ได้ด้วย ซึ่งเราสามารถใช้ Passkey แทนการใส่ password แบบเดิม ๆ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้เลย โดยจากการที่ Google นำร่องรองรับ Passkey ไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดทาง Bitwarden ซึ่งเป็นหนึ่งแอปฯ จัดการรหัสผ่านยอดนิยมก็ได้ประกาศที่จะรองรับ Passkey ในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน

ในช่วงหลัง ๆ มานี้ระบบ Passkey เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความที่ตัว Passkey นั้นใช้งานค่อนข้างง่ายลดความเสี่ยงจากการใช้รหัสเดิมซ้ำ ๆ และลดยุ่งยากจากใช้ระบบยืนยันตัวตนแบบ 2 Fator Authentication ได้ด้วย ซึ่งเราสามารถใช้ Passkey แทนการใส่ password แบบเดิม ๆ ในเว็บไซต์ต่าง ๆ ได้เลย โดยจากการที่ Google นำร่องรองรับ Passkey ไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดทาง Bitwarden ซึ่งเป็นหนึ่งแอปฯ จัดการรหัสผ่านยอดนิยมก็ได้ประกาศที่จะรองรับ Passkey ในเร็ว ๆ นี้เช่นกัน ทาง Bitwarden ได้ประกาศแผนการว่าจะรองรับ Presskey ภายในปีนี้ ซึ่งระบบจะให้ผู้ใช้งานสามารถจำแนก Passkey ประเภทต่าง ๆ ที่ใช้ในแต่ละเว็บไซต์ได้ โดยจะรองรับกับบัญชีผู้ใช้งานส่วนตัว และบัญชีธุรกิจบน Bitwarden Bitwarden จะให้ผู้ใช้งานใช้ Passkey ทดแทนระบบ 2FA … Read more

Google เริ่มแสดงข้อความแจ้งเตือนเมื่อพบว่าผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้เริ่มต้นสนทนาในช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาทางสุขภาพจิต โดยได้ร่วมมือกับ International Association for Suicide Prevention หรือ สมาคมการป้องกันการฆ่าตัวตายนานาชาติ

Google เริ่มแสดงข้อความแจ้งเตือนเมื่อพบว่าผู้ใช้ค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ใช้เริ่มต้นสนทนาในช่วงเวลาที่ยากลำบากเมื่อต้องเผชิญกับปัญหาทางสุขภาพจิต โดยได้ร่วมมือกับ International Association for Suicide Prevention หรือ สมาคมการป้องกันการฆ่าตัวตายนานาชาติ เช่นในสหรัฐอเมริกา กูเกิลจะขึ้นข้อความให้โทรหรือส่งข้อความถึง 988 ติดต่อ Suicide & Crisis Lifeline เพื่อพูดคุยและปรึกษาด้านสุขภาพจิตได้ตลอด 24 ชม. แสดงปุ่มส่งข้อความถึงคนใกล้ชิด โดยจะมีปุ่มส่งข้อความขอความช่วยเหลือที่จะเข้าไปสู่หน้าแอปส่ง SMS เพื่อให้สามารถส่งได้ทันที Megan Jones Bell ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าผู้ใช้ทั่วไปและสุขภาพจิตของกูเกิลระบุว่า “เมื่อมีคนอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก อาจจะเป็นเรื่องยากที่จะอธิบายและรู้ว่าจะพูดอะไรเพื่อขอความช่วยเหลือ ซึ่งข้อความที่พิมพ์ไว้ล่วงหน้าที่ออกแบบโดย สมาคมการป้องกันการฆ่าตัวตายนานาชาติ จะช่วยให้ขอความช่วยเหลือได้ง่ายขึ้น” ในปีที่แล้ว Google ได้เริ่มใช้ AI เพื่อตรวจจับการค้นหาผู้ที่อยู่ในภาวะวิกฤตทาง และพยายามแนะนำช่องทางความช่วยเหลือต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่มา: Theverge

ก่อนหน้านี้ Google เปิดให้ใช้งานฟังก์ชัน Gboard คีย์บอร์ดแยกบนสมาร์ตโฟนพับได้และล่าสุด Google เริ่มเปิดใช้คีย์บอร์ดแยก Gboard บนแท็บเล็ตที่ใช้ระบบ Android ได้แล้ว

ก่อนหน้านี้ Google เปิดให้ใช้งานฟังก์ชัน Gboard คีย์บอร์ดแยกบนสมาร์ตโฟนพับได้และล่าสุด Google เริ่มเปิดใช้คีย์บอร์ดแยก Gboard บนแท็บเล็ตที่ใช้ระบบ Android ได้แล้ว คีย์บอร์ดแยกของ Gboard จะมีการวางจำนวนคีย์เท่ากันทั้งซ้ายและขวา เมื่อเปิดใช้งานแยกเลย์เอาท์เพื่อรวมคีย์ที่ซ้ำกัน เข้าไปที่ตั้งค่า > ตั้งค่าส่วนบุคคล > Layout เปิดเป็นค่าเริ่มต้น โดยปุ่มคีย์บอร์ดบางปุ่มจะถูกวางซ้ำทั้ง 2 ฝั่ง หรือสามารถสับเปลี่ยนระหว่าง คีย์บอร์ดมาตรฐาน และ คีย์บอร์ดแยก ได้โดยง่ายเพียงกดตรงแถบเครื่องมือ ซึ่งสมาร์ตโฟนที่ใช้คีย์บอร์ดแยกของ Gboard อย่าง Galaxy Fold, Surface Duo และเริ่มเห็นใน Galaxy Tab S8 เวอร์ชัน 12.9.21 ที่ใช้ Gboard beta ในปีที่แล้ว รวมไปถึงจะมีการเปิดให้ใช้บนแท็บเล็ต Pixel Tablet ที่กำลังจะเปิดตัวในเดือนหน้า ที่มา: 9to5

Sundar Pichai ซีอีโอของกูเกิลให้สัมภาษณ์กับ The Verge หลังงาน Google I/O 2023 เน้นประเด็นเรื่อง AI

Sundar Pichai ซีอีโอของกูเกิลให้สัมภาษณ์กับ The Verge หลังงาน Google I/O 2023 เน้นประเด็นเรื่อง AI ข้อมูลสำคัญในบทสัมภาษณ์คือเขาอธิบายเรื่องการรวมทีม Google Brain กับ DeepMind เข้าเป็น Google DeepMind ว่าเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติของกูเกิลอยู่แล้ว เขายกตัวอย่างว่าก่อนหน้านี้ กูเกิลมีทีมเพลงสองทีมคือ YouTube Music และ Google Play Music ที่สุดท้ายยุบรวมกัน Pichai บอกว่ากูเกิลโชคดีที่มีทีมวิจัย AI ที่ดีที่สุดระดับ Top 3 ของโลกอยู่ถึง 2 ทีม และหากไปดูงานวิจัยด้าน AI ชิ้นสำคัญๆ ก็เป็นผลงานของสองทีมนี้เสียเยอะ แต่เมื่อโมเดลของ AI มีขนาดใหญ่ขึ้น ซับซ้อนขึ้น ต้องการทรัพยากรมากขึ้น การรวมทีมจึงเป็นสิ่งจำเป็น และทั้งสองทีมต่างตระหนักเรื่องนี้ เขาบอกว่า Google Brain กับ DeepMind ร่วมกันพัฒนาโมเดล … Read more

ปัญหาของนักพัฒนาเว็บช่วงหลังที่เจอกันบ่อยคือแม้จะมี API ใหม่ๆ ให้ใช้งาน และหลายครั้งออกเป็นมาตรฐานแล้ว แต่เบราว์เซอร์แต่ละยี่ห้อก็รองรับไม่พร้อมกัน ทำให้นักพัฒนาต้องมาระวังว่าอะไรใช้ได้ไม่ได้ ที่ผ่านมาแม้จะมีการจัดมาตรฐานมาทำเป็นชุดทดสอบ เช่น Interop แต่สุดท้ายนักพัฒนาก็ต้องมาดูเองอยู่ดีว่าเบราว์เซอร์ใดผ่านข้อไหนบ้าง ในงาน Google I/O ปีนี้กูเกิลจึงเปิดตัว Baseline โลโก้แจ้งนักพัฒนาว่าฟีเจอร์ใดพร้อมใช้งานโดยทั่วไปแล้ว

ปัญหาของนักพัฒนาเว็บช่วงหลังที่เจอกันบ่อยคือแม้จะมี API ใหม่ๆ ให้ใช้งาน และหลายครั้งออกเป็นมาตรฐานแล้ว แต่เบราว์เซอร์แต่ละยี่ห้อก็รองรับไม่พร้อมกัน ทำให้นักพัฒนาต้องมาระวังว่าอะไรใช้ได้ไม่ได้ ที่ผ่านมาแม้จะมีการจัดมาตรฐานมาทำเป็นชุดทดสอบ เช่น Interop แต่สุดท้ายนักพัฒนาก็ต้องมาดูเองอยู่ดีว่าเบราว์เซอร์ใดผ่านข้อไหนบ้าง ในงาน Google I/O ปีนี้กูเกิลจึงเปิดตัว Baseline โลโก้แจ้งนักพัฒนาว่าฟีเจอร์ใดพร้อมใช้งานโดยทั่วไปแล้ว เงื่อนไขที่ฟีเจอร์จะได้เข้า Baseline คือฟีเจอร์นั้นต้องได้รับซัพพอร์ตจาก Chrome, Edge, Firefox, และ Safari มาแล้วสองเวอร์ชั่น คือเวอร์ชั่นปัจจุบัน และเวอร์ชั่นก่อนหน้า ทำให้ค่อนข้างมั่นใจได้ว่าผู้ใช้ที่ใช้ฟีเจอร์นี้ไม่ได้จะเหลือน้อยแล้ว แนวทางนี้ทำให้โครงการต่างๆ สามารถเลือกใช้ฟีเจอร์โดยระบุว่าจะซัพพอร์ต Baseline แทนที่จะระบุเวอร์ชั่นเบราว์เซอร์ตายตัว และเมื่อมีฟีเจอร์ใหม่ๆ ได้เข้า Baseline ก็ใช้งานได้ทันที นอกจากนี้ทีมงานยังตัดเวอร์ชั่นรายปี เช่น ปลายปีนี้จะตัดฟีเจอร์ออกมาเป็น Baseline 2024 สำหรับโครงการที่ต้องการล็อกฟีเจอร์ที่ใช้งานได้ และไม่ต้องการเปลี่ยนแปลงมาตรฐานบ่อยๆ ตอนนี้ MDN และ web.dev จะแสดงโลโก้ Baseline ในฟีเจอร์ที่เข้าข่าย และอนาคตจะมีเครื่องมือสำหรับแสดงว่าไลบรารีใดใช้ฟีเจอร์ตาม Baseline รวมถึงบทความแนะนำต่างๆ ว่าไม่ได้แนะนำให้ใช้ฟีเจอร์เกิน … Read more