NVIDIA Research เปิดตัว Eureka ปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานบน GPT-4 สำหรับฝึกหุ่นยนต์ให้ทำงานตามต้องการด้วย Reward Algorithms ซึ่งตัวอย่างที่ NVIDIA Research นำเสนอคือการควงปากกาแบบรวดเร็วในระดับเดียวกับคน

NVIDIA Research เปิดตัว Eureka ปัญญาประดิษฐ์ที่ทำงานบน GPT-4 สำหรับฝึกหุ่นยนต์ให้ทำงานตามต้องการด้วย Reward Algorithms ซึ่งตัวอย่างที่ NVIDIA Research นำเสนอคือการควงปากกาแบบรวดเร็วในระดับเดียวกับคน Eureka ยังสามารถฝึกให้หุ่นยนต์ทำงานต่าง ๆ ได้เกือบ 30 อย่าง เช่น เปิดตู้ ยกของ ใช้กรรไกร โยนวัตถุสลับไปมาระหว่างมือ ซึ่งด้วยวิธีแบบ Reward นั้น ทำให้หุ่นยนต์เรียนรู้จากการทดลองทำและจดจำความผิดพลาด พบว่าได้ผลลัพธ์ที่ดีกว่าเขียนคำสั่งให้หุ่นยนต์ด้วยโค้ดแบบครั้งเดียว 80% สามารถรองรับกลไกหุ่นยนต์ที่หลากหลาย และรองรับสถานการณ์ที่เปลี่ยนไปได้ดีมากกว่า NVIDIA Research ยังแนะนำให้ผู้สนใจทดลองพัฒนาอัลกอริทึมของ Eureka ใช้งาน NVIDIA Isaac Gym แพลตฟอร์มสำหรับทำซิมูเลชันด้านฟิสิกส์ ที่มา: NVIDIA

ศูนย์วิจัยโมเดล AI ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Center for Research on Foundation Models หรือ CRFM) ร่วมกับหน่วยงานวิจัยของ MIT Media Lab และ Princeton เปิดตัวดัชนีความโปร่งใสของโมเดล AI ที่เรียกว่า Foundation Model Transparency Index

ศูนย์วิจัยโมเดล AI ของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด (Center for Research on Foundation Models หรือ CRFM) ร่วมกับหน่วยงานวิจัยของ MIT Media Lab และ Princeton เปิดตัวดัชนีความโปร่งใสของโมเดล AI ที่เรียกว่า Foundation Model Transparency Index ดัชนี Foundation Model Transparency Index ให้คะแนนโมเดล AI ขนาดใหญ่ของบริษัทต่างๆ ในเรื่องความโปร่งใสของกระบวนการสร้างโมเดล เริ่มตั้งแต่ข้อมูลที่ใช้เทรน การจ้างแรงงานเพื่อแปะป้ายให้ข้อมูลที่เทรน ความโปร่งใสของตัวโมเดล ความเสี่ยงในการใช้งาน มาตรการความปลอดภัย ฯลฯ รวม 13 หมวด ผลออกมาว่าโมเดล Llama 2 ของ Meta ได้คะแนนอันดับหนึ่ง 54/100 จากปัจจัยการเป็นโมเดลโอเพนซอร์ส ส่วน GPT-4 ของ OpenAI อยู่อันดับสามที่คะแนน … Read more

กูเกิลประกาศร่วมโครงการ Brain Research Through Advancing Innovative Neurotechnologies (BRAIN) ของ NIH หน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพของสหรัฐฯ โดยจะทำแผนที่สมองหนูเฉพาะส่วนฮิปโปแคมปัสขนาดประมาณ 2-3% ของสมองทั้งก้อน รวมปริมาณนิวรอนที่จะวิเคราะห์อยู่ที่ระดับ 1 ล้านนิวรอน

กูเกิลประกาศร่วมโครงการ Brain Research Through Advancing Innovative Neurotechnologies (BRAIN) ของ NIH หน่วยงานวิจัยด้านสุขภาพของสหรัฐฯ โดยจะทำแผนที่สมองหนูเฉพาะส่วนฮิปโปแคมปัสขนาดประมาณ 2-3% ของสมองทั้งก้อน รวมปริมาณนิวรอนที่จะวิเคราะห์อยู่ที่ระดับ 1 ล้านนิวรอน โครงการนี้เป็นโครงการต่อเนื่องมาจากโครงการเมื่อปี 2020 ที่กูเกิลเคยปล่อยแผนที่สมองแมลงวันความซับซ้อนขนาด 25,000 นิวรอนออกมาก่อนแล้ว โดยความซับซ้อนของสมองนั้นไม่ได้อยู่ที่จำนวนนิวรอนเพียงอย่างเดียวแต่ยังมีการเชื่อมต่อด้วย เช่นสมองแมลงวันมีขนาดประมาณ 125,000 นิวรอน ขนาดข้อมูลรวมระดับ 10 เทราไบต์ แต่สมองมนุษย์เพียงส่วนเล็กๆ 16,087 นิวรอน ก็มีขนาดข้อมูลถึง 1.4 เพตาไบต์ไปแล้ว สำหร้บสมองหนูส่วนฮิปโปแคมปัสนี้คาดว่าจะมีข้อมูลรวม 25 เพตาไบต์ โครงการ BRAIN รวมนั้นให้ทุน 150 ล้านดอลลาร์ แต่เฉพาะโครงการส่วนที่กูเกิลร่วมนั้นมีมูลค่าทุน 33 ล้านดอลลาร์ อย่างไรก็ดีกูเกิลจะไม่ได้รับเงินเข้าบริษัท แต่ร่วมวิจัยและบริจาคหน่วยประมวลผลให้ทีมวิจัยที่ทำงานร่วมกัน ที่มา – Google Research

บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research คาดการณ์จำนวนส่งมอบสมาร์ทโฟนทั่วโลกประจำปี 2023 จะอยู่ที่ 1,147 ล้านเครื่อง ลดลง 6% จากปี 2022 ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี

บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research คาดการณ์จำนวนส่งมอบสมาร์ทโฟนทั่วโลกประจำปี 2023 จะอยู่ที่ 1,147 ล้านเครื่อง ลดลง 6% จากปี 2022 ซึ่งมีประเด็นสำคัญคือเป็นตัวเลขที่น้อยที่สุดในรอบ 10 ปี ปัจจัยที่ส่งผลมีหลายส่วน ทั้งตลาดเอเชียที่เติบโตสูง ทำให้ภาพรวมเติบโตดีมาโดยตลอด ในปีนี้ผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ยอดขายชะลอตัวหรือลดลง โดยเฉพาะในจีน ส่วนอเมริกาก็ถดถอยในระดับเลขสองหลักจากปัญหาเงินเฟ้อ นอกจากนี้ Jeff Fieldhack ยังพบว่าจำนวนการอัพเกรดโทรศัพท์ในปีนี้ก็ลดน้อยลงในรอบหลายปีเช่นกัน สถานการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ Counterpoint มองว่าเป็นโอกาสของแอปเปิล เนื่องจากขายสมาร์ทโฟนในตลาดพรีเมียมที่ได้รับผลกระทบน้อยกว่าตลาดอื่น ซึ่งตัวเลขจะเห็นชัดเจนในไตรมาสที่ 4 ปีนี้ ที่มา: Counterpoint Research

บริษัทวิจัยตลาด Bernstein Research ออกรายงานประเมินส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ Arm มีข้อมูลน่าสนใจดังนี้

บริษัทวิจัยตลาด Bernstein Research ออกรายงานประเมินส่วนแบ่งตลาดเซิร์ฟเวอร์ Arm มีข้อมูลน่าสนใจดังนี้ เซิร์ฟเวอร์ Arm มีสัดส่วนคิดเป็นราว 10% ของเซิร์ฟเวอร์ทั้งหมดแล้ว ในกลุ่มเซิร์ฟเวอร์ Arm ด้วยกันเอง มีเซิร์ฟเวอร์ของ AWS คิดเป็นสัดส่วนถึง 50%, อีก 40% เป็นของบริษัทฝั่งจีนรวมกัน และอีก 10% สุดท้ายคือที่เหลือทั้งหมด AWS มีซีพียู Graviton ที่ออกแบบเองใช้มาหลายปีแล้ว และด้วยสเกลของ AWS ที่มีฐานลูกค้ามหาศาล จึงไม่น่าแปลกใจว่ามีสัดส่วนการใช้งานเยอะขนาดนี้ Bernstein ยังประเมินว่า สัดส่วน Arm คิดเป็น 20% ของซีพียู instance ที่ AWS มีให้ใช้งานทั้งหมด บริษัท Ampere ที่ออกแบบซีพียู Arm สำหรับเซิร์ฟเวอร์ ถือเป็นบริษัทอันดับสอง มีส่วนแบ่งตลาดตามมาห่างๆ ที่ 5-10% ของทั้งตลาด ส่วนผู้เล่นจากจีน ได้แก่ … Read more

มหากาพย์สาร LK-99 (CuO25P6Pb9) ที่อาจจะเป็นตัวนำยิ่งยวดดูมีเค้าลางยิ่งขึ้น หลังห้องวิจัยหลายแห่งพยายามทำซ้ำรายงานวิจัยของ Quantum Energy Research Centre และพบว่า LK-99 มีคุณสมบัติของตัวนำยิ่งยวดจริงในบางสภาวะ ล่าสุดทีมวิจัยจาก Huazhong University of Science and Technology (HUST) ก็พบ Meissner effect ของ LK-99 ที่อุณหภูมิห้อง (400K) บ่งชี้ว่า LK-99 อาจจะเป็นตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิห้องได้จริงๆ

มหากาพย์สาร LK-99 (CuO25P6Pb9) ที่อาจจะเป็นตัวนำยิ่งยวดดูมีเค้าลางยิ่งขึ้น หลังห้องวิจัยหลายแห่งพยายามทำซ้ำรายงานวิจัยของ Quantum Energy Research Centre และพบว่า LK-99 มีคุณสมบัติของตัวนำยิ่งยวดจริงในบางสภาวะ ล่าสุดทีมวิจัยจาก Huazhong University of Science and Technology (HUST) ก็พบ Meissner effect ของ LK-99 ที่อุณหภูมิห้อง (400K) บ่งชี้ว่า LK-99 อาจจะเป็นตัวนำยิ่งยวดที่อุณหภูมิห้องได้จริงๆ เนื่องจากปริมาณ LK-99 ที่สังเคราะห์ได้ในตอนนี้ยังมีปริมาณน้อยมากๆ ในรายงานนี้ HUST สังเคราะห์ออกมาได้เพียงขนาดเท่าเม็ดฝุ่นเท่านั้น จึงยังไม่สามารถวัดค่าความต้านทานได้โดยตรง ตอนนี้มีห้องวิจัยอย่างน้อย 11 แห่งจาก 5 ชาติกำลังลงมือทำซ้ำรายงานวิจัย LK-99 อยู่ แต่ห้องวิจัยในเกาหลีใต้เองและในสหรัฐฯ นั้นยังไม่มีการรายงานผลออกมา ที่มา – arXiv

สัปดาห์ที่ผ่านมาทีมวิจัยจากบริษัท Quantum Energy Research Centre ตีพิมพ์รายงานวิจัยแบบไม่ผ่านการตรวจทาน (peer review) ระบุว่าสาร LK-99 (CuO25P6Pb9) มีคุณสมบัติตัวนำยิ่งยวด (superconductor) ที่อุณหภูมิห้อง หาก LK-99 มีคุณสมบัติตามที่อ้างจริงก็นับว่าเป็นความก้าวหน้าของวงการวัสดุศาสตร์อย่างมาก และทางทีมวิจัยระบุว่าจะใช้ LK-99 ในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัม

สัปดาห์ที่ผ่านมาทีมวิจัยจากบริษัท Quantum Energy Research Centre ตีพิมพ์รายงานวิจัยแบบไม่ผ่านการตรวจทาน (peer review) ระบุว่าสาร LK-99 (CuO25P6Pb9) มีคุณสมบัติตัวนำยิ่งยวด (superconductor) ที่อุณหภูมิห้อง หาก LK-99 มีคุณสมบัติตามที่อ้างจริงก็นับว่าเป็นความก้าวหน้าของวงการวัสดุศาสตร์อย่างมาก และทางทีมวิจัยระบุว่าจะใช้ LK-99 ในการพัฒนาคอมพิวเตอร์ควอนตัม ตอนนี้ห้องปฎิบัติการวิจัยจำนวนมากทั่วโลกกำลังพยายามผลิต LK-99 และตรวจสอบคุณสมบัติของมัน เช่น Argonne National Laboratory ของสหรัฐฯ ก็กำลังผลิต LK-99 และตรวจสอบว่าเป็นตัวนำยิ่งยวดจริงหรือไม่ หลายทีมพยายามทำซ้ำแล้วพบ LK-99 ไม่มีคุณสมบัติตัวนำยิ่งยวดจริง แต่มีคุณสมบัติความเป็นแม่เหล็ก (วิดีโอจาก Huazhong University of Science and Technology) Michael Norman จาก Argonne National Laboratory ระบุว่าข้อมูลงานวิจัยนั้นดูไม่น่าเชื่อถือนัก แต่ก็ระบุว่ารายงานบอกชัดเจนว่าจะสังเคราะห์ LK-99 ได้อย่างไร เราจึงน่าจะเห็นบทสรุปว่า LK-99 เป็นตัวนำยิ่งยวดได้จริงหรือไม่ในเร็วๆ … Read more

บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research ประกาศตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ประจำไตรมาส 2/2023 ภาพรวมตลาดหดตัวลงถึง 24% นับจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY)

บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research ประกาศตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนในสหรัฐอเมริกา ประจำไตรมาส 2/2023 ภาพรวมตลาดหดตัวลงถึง 24% นับจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน (YoY) ทุกบริษัทล้วนมียอดขายหดกันถ้วนหน้า มีกูเกิลเพียงรายเดียวที่ยอดขายเพิ่ม 48% จากยุทธศาสตร์ Pixel ที่เข้าเป้า (แต่ก็มาจากฐานที่น้อยด้วย ส่วนแบ่งตลาดรวมมีแค่ 3%) แม้แต่แอปเปิลก็ยังยอดขายลดลง แม้ลดลงเพียงเล็กน้อย 6% ถือว่าดีมากแล้วก็ตาม ซัมซุงถือเป็นผู้ผลิตที่ยอดขายตกหนักถึง 37%, Motorola ลด 17%, TCL ที่เน้นขายมือถือราคาถูก ลดลง 69%, รายอื่นๆ ที่เหลือลดลง 52% นักวิเคราะห์ของ Counterpoint ประเมินว่า แม้ภาพรวมเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มดูดีขึ้นแล้ว แต่ผู้บริโภคยังชะลอการซื้อสมาร์ทโฟนใหม่เพราะไม่มั่นใจในอนาคต โดย Counterpoint คาดว่าเทรนด์ตลาดหดตัวนี้จะยังมีผลต่อในไตรมาส 3/2023 แต่แอปเปิลมี iPhone 15 รอวางขายอยู่ ก็น่าจะยังขายได้ดีเหมือนเดิม ที่มา – Counterpoint Topics:  Counterpoint Research … Read more

บริษัทวิจัย Counterpoint Research รายงานว่ายอดขายมือถือตระกูล Pixel ของกูเกิลในไตรมาส 1/2023 เติบโตขึ้นถึง 67% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากสมาร์ทโฟนหลายรุ่นทั้ง Pixel 6a, Pixel 7 และ Pixel 7 Pro

บริษัทวิจัย Counterpoint Research รายงานว่ายอดขายมือถือตระกูล Pixel ของกูเกิลในไตรมาส 1/2023 เติบโตขึ้นถึง 67% เทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน อันเป็นผลมาจากสมาร์ทโฟนหลายรุ่นทั้ง Pixel 6a, Pixel 7 และ Pixel 7 Pro ส่วน Pixel 7a ที่เพิ่งวางขายเมื่อเดือนพฤษภาคม จะนับเป็นยอดขายของ Q2/2023 แต่ตัวเลขยอดขาย 3 สัปดาห์แรกก็ทำได้ดี ยอดขายโต 74% เทียบกับ 6a ช่วงเปิดตัว อีกประเด็นที่น่าสนใจคือญี่ปุ่นกลายเป็นตลาดใหญ่ที่สุดของ Pixel แซงหน้าสหรัฐไปแล้ว โดยส่วนแบ่งยอดขาย Pixel ในไตรมาส 1/2023 คิดเป็นตลาดญี่ปุ่นถึง 34% เทียบกับสหรัฐ 31% และเติบโตขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ที่ยอดขายในญี่ปุ่นคิดเป็นสัดส่วน 10% ของยอดขายทั้งหมดเท่านั้น Counterpoint ยังบอกว่า Pixel 7a ก็ขายดีในญี่ปุ่นด้วย เป็นผลมาจากการวางขายครบทั้ง 3 … Read more

Salesforce AI Research ประกาศผลงานการฝึกปัญญาประดิษฐ์ XGen-7B เป็นปัญญาประดิษฐ์แบบโอเพนซอร์สที่สามารถใช้งานได้อิสระ โดยชูจุดเด่นที่คุณภาพสูงเหนือปัญญาประดิษฐ์ในกลุ่มโอเพนซอร์สด้วยกัน เช่น MPT-7B หรือ Falcon-7B

Salesforce AI Research ประกาศผลงานการฝึกปัญญาประดิษฐ์ XGen-7B เป็นปัญญาประดิษฐ์แบบโอเพนซอร์สที่สามารถใช้งานได้อิสระ โดยชูจุดเด่นที่คุณภาพสูงเหนือปัญญาประดิษฐ์ในกลุ่มโอเพนซอร์สด้วยกัน เช่น MPT-7B หรือ Falcon-7B XGen-7B เทรนบนชิป TPU-v4 ของ Google Cloud ต้นทุนต่อการเทรนด้วยข้อมูล 1 ล้านล้านโทเค็นอยู่ที่ 150,000 ดอลลาร์ ตัวโมเดลเริ่มต้นด้วย XGen-7B-4K-base ฝึกสองรอบ รอบแรก 8 แสนล้านโทเค็น และอีกรอบ 4 แสนล้านโทเค็น โดยใช้ชุดข้อมูลเทรนขนาด 4,000 โทเค็น ซึ่งเหนือกว่าโมเดลโอเพนซอร์สอื่น ซึ่งมักเทรนด้วยข้อมูลชุดละ 2,000 โทเค็นเท่านั้น จากนั้นฝึกเพิ่มด้วยข้อมูลชุดละ 8,000 โทเค็น ไปอีก 3 แสนล้านโทเค็น ได้เป็น XGen-7B-8K-base ชุดสุดท้ายเป็นการจูนด้วยชุดคำถามตอบ โดยใช้คำถามที่ไม่ได้อนุญาตที่ใช้งานได้อิสระ โมเดลที่ได้เป็น XGen-7B Instruct เปิดให้ใช้งานเฉพาะการวิจัยเท่านั้น คะแนนทดสอบหมวดต่างๆ ของ XGen-7B … Read more